วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เทศนา 20/11/2559



ศจ. ธีรพันธ์       ขอบใจ



สรุปคำเทศนา  แผนพิชิตเมืองเยรีโค”  (พระธรรม โยซูวา 6: 1 - 27)
                                                                                โดย:- ศจ. ธีรพันธ์       ขอบใจ

หนังสือโยชูวา  เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชัยชนะและความสำเร็จของประชากรของพระเจ้า หลังจากตกเป็นทาสในอียิปต์ถึง 430 ปีและเดินหลงทางในถิ่นทุรกันดารถึง 40 ปีในที่สุดชนชาติอิสราเอลได้รับอนุญาตให้เข้าสู่แผ่นดินซึ่งพระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขาพระธรรมเล่มนี้ได้กล่าวถึงตัวละครหลัก 3 กลุ่ม คือ  องค์พระผู้เป็นเจ้า = ในฐานะเป็นพระเจ้าของชนชาติอิสราเอล  โยชูวา = ในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้า   อิสราเอล = ประชากรของพระเจ้า  ผู้เขียนและวันเวลาที่เขียน   นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าพระธรรมโยชูวาถูกเขียนขึ้นภายหลังยุคกษัตริย์ คือ ประมาณ 800 ปีหลังจากที่เกิดเหตุการณ์จริงแต่ยังมีเหตุผลโต้แย้งว่าพระธรรมโยชูวาอาจเขียนขึ้นก่อนหน้านั้น เป็นเวลานาน  แหล่งข้อมูลเก่าแก่ที่สุดของชาวยิว (หนังสือทัลมุด) กล่าวว่าผู้เขียนเป็นโยชูวาเอง ยกเว้นเนื้อหาที่เกี่ยวกับการฝังของเขา ผู้เขียนตอนท้ายอาจเป็นเอเลอาซาร์บุตรอาโรน  เราพบหลักฐานจากเนื้อหาพระธรรมโยชูวาอย่างน้อย 2 ตอน ซึ่งระบุว่าโยชูวาได้สั่งให้เขียนพระธรรมเล่มนี้ ขณะแบ่งดินแดนให้แต่ละเผ่าโยชูวาสั่งให้เขาเขียนว่า จงไปสำรวจและบันทึกลักษณะของแผ่นดิน” (18:8)  ขณะนำชาวอิสราเอลในการฟื้นฟูพันธสัญญากับพระเจ้า พระคัมภีร์ได้บันทึกว่า เขาเขียนกฎหมายและกฎบัญญัติ” (24:25) ชีวิตโยชูวา โยชูวาได้พบเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นหลายอย่าง เช่น ความสำเร็จ และเกียรติยศ เขามีชื่อเสียงที่เชื่อฟังพระเจ้าอย่างสุดใจ และเป็นคนที่ มีพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ภายใน” (กันดารวิถี 27:18)  เขามีความขมขื่นในวัยหนุ่มในฐานะทาสในอียิปต์  เขาได้ผ่านภัยพิบัติและเห็นการอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงช่วยชาวอิสราเอล  ได้หลบหนีทหารอียิปต์โดยน้ำทะเลแดงแยกออกจากกัน ได้เป็นผู้นำกองทัพอิสราเอลไปสู่ชัยชนะเหนือกองทัพอามาเลขที่ซีนาย (อพยพ 17:8-13)  เขาเป็นคนที่เคยเฝ้าดูเต้นท์นัดพบที่โมเสสสร้างขึ้นก่อนที่จะมีการสร้างพลับพลา (อพยพ 33:11)  เขาได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนเผ่าเอฟราอิม เพื่อเป็นหนึ่งใน 12 คนที่เข้าไปสอดแนมในคะนาอันก่อนที่จะเข้ายึดแผ่นดิน และอีกคนหนึ่งคือคาเลบ ที่พร้อมจะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าและบุกเข้ายึดครองแผ่นดิน” (กันดารวิถี 14:26-34)  สังเกต : พระเจ้าทรงเรียกใช้คนที่คิดบวก และ คนที่คิดบวกเท่านั้นที่จะทำการใหญ่ของพระเจ้าให้สำเร็จได้ เขาคือคนที่พระเจ้าทรงเลือก (24:29) ให้สานต่อภารกิจของโมเสสให้สำเร็จ และนำอิสราเอลเข้าไปถึงถิ่นฐานในดินแดนแห่งพันธสัญญา  เมืองเยรีโค เมืองนี้เป็นเมืองแรกที่โยชูวายึดไว้ได้ (6:2-20) เยรีโคเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งบนแผ่นดินโลก  เหตุการณ์สำคัญ : ใกล้สถานที่แห่งนี้  เช่น โยชูวาและลูกหลานอิสราเอลข้ามแม่น้ำจอร์แดน, พระเจ้าทรงให้กำแพงพังลงอย่างอัศจรรย์,  เอลีชาทำให้น้ำของเยรีโคเป็นน้ำดี (2 พกษ 2:18-22) พระเยซูได้เสด็จผ่านมาทางนี้ในการเยือนกรุงเยรูซาเล็ม, ทรงรักษาบารทิเมอัส คนตาบอดให้มองเห็นได้, ทรงเรียกศักเคียสขณะปีนขึ้นต้นมะเดื่อเพื่อพบพระเยซู (มาระโก 10:46-52;  ลูกา 18:35-43; 19:1-10)  ถนนจากเยรูซาเล็มไปเยรีโคคือถนนที่บรรยายไว้ในคำอุปมาของชาวสะมาเรียใจดี (ลูกา 10:30-37) แผนพิชิตเยรีโค  ดูภาพยนตร์เยรีโค และ คลิปวีดีโอ เรืยนรู้อดีตลิขิตอนาคต-เยรีโคเมืองประวัติศาสตร์  โยชูวา 6:1-27 กล่าวถึงชัยชนะที่มีเหนือเมืองเยรีโค และได้แบ่งออกเป็น 3 ตอน ได้แก่ (1) พระบัญชาของพระเจ้าต่อโยชูวา (ข้อ 1-5)   (2) การปฏิบัติตามพระมหาบัญชาของพระเจ้า (ข้อ 6-21) และ ( 3) เหตุการณ์หลังสงคราม (ข้อ 22-27)  (1).รับพระมหาบัญชาของพระเจ้า (ข้อ 1-5)  ดูแน่ะเราได้มอบเมืองเยรีโคไว้ในมือเจ้าแล้ว  เจ้าทั้งหลายจง เดินขบวนรอบเมือง  วันที่ 1-6 วันละหนึ่งรอบ และวันที่ 7 เดิน 7 รอบ ปุโรหิตเป่าเขาสัตว์ ประชาชนโห่ร้องเสียงอันดัง กำแพงเมืองนั้นก็จะพังลงราบ   ปุโรหิต (ปุโรหิตยกหีบพันธสัญญา/ ปุโรหิต 7 คน ถือแตรเขาสัตว์ 7 คัน)  หีบ เป็นสัญลักษณ์ของการสถิตอยู่ด้วยของพระเจ้า   (ทหารนำหน้า ------ หีบพันธสัญญาอยู่ตรงกลาง ------ ตามหลังด้วยปุโรหิตผู้เป่าแตรเขาแกะ เป็นการเน้นย้ำว่าการมีชัยชนะเหนือดินแดนคานาอันนั้นเกิดจากพระเจ้า) (2) การปฏิบัติตามพระบัญชาของพระเจ้า (ข้อ 6-21)  (โดยการเชื่อฟังแบบง่ายๆ ถึงแม้ว่าดูไม่มีเหตุผลก็ตาม) โยชูวาเรียกปุโรหิตมาสั่งว่า จงยกหีบแห่งพันธสัญญาขึ้นหามไป….. (มีผู้รับใช้/ มีหีบพันธสัญญาของพระเจ้านำหน้า) และสั่งประชาชนว่า จงออกเดินรอบเมืองนั้น….  (ให้ทหารถืออาวุธเดินข้างหน้าหีบแห่งพระเจ้า)โยชูวาได้ปฏิบัติตามทุกอย่างที่พระเจ้าทรงบัญชาไว้ / ได้เดินตามนิมิต/ที่ได้รับวันที่ 7 เป็นวันที่พระเจ้าทรงมอบเมืองนี้ไว้กับคนอิสราเอล เพื่อเป็นหลักประกันแรกของการบรรลุเป้าหมาย (ความน่าประหลาดของจำนวนเลข 7 ที่ปรากฏอยู่ในเหตุการณ์ ได้แก่ ปุโรหิต 7 คนที่เป่าแตรเขาแกะ / วัน 7 วัน/ เดินขบวน 7 รอบในวันที่ 7) เน้นให้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของเหตุการณ์นั้น และอาจเจตนาให้ระลึกถึงเรื่องการทรงสร้าง 7 วันของพระเจ้า เพื่อแสดงภาพการเริ่มต้นแบบแผนใหม่ของพระเจ้าในโลกนี้)  ข้อ 20 ประชาชนก็โห่ร้องเสียงดัง  และกำแพงก็พังลงราบ  ให้เราเรียนรู้เดินตามแผนของพระเจ้าแบบง่ายๆ เหมือนโยชูวาที่ค้นพบว่า พระเจ้าทรงอัศจรรย์” 1โครินธ์ 5:57 “สาธุการแด่พระเจ้า ผู้ทรงประทานชัยชนะแก่เราทั้งหลาย โดยพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา (3) พิชิตเยรีโคด้วยความเชื่อ (ข้อ 6-16,20)  ฮีบรู 11:30 “เพราะความเชื่อ เมื่อพวกอิสราเอลล้อมกำแพงเมืองเยรีโคไว้ถึง 7 วัน แล้วกำแพงเมืองก็พังลง”   1ยอห์น 5:4 “เพราะทุกคนที่เกิดจากพระเจ้าก็มีชัยต่อโลกและความเชื่อของเรานี่แหละเป็นชัยชนะที่ชนะโลก  ในทางทหาร การทำลายกำแพงเมืองต้องใช้เครื่องยิง หรืออุปกรณ์ทำลายกำแพง  แต่พระเจ้าสั่งให้คนอิสราเอลเดินรอบกำแพงเป็นเวลา 7 วันแล้วกำแพงก็พังลง  พระธรรมฮีบรู ได้ยืนยันแก่เราว่า คนอิสราเอลมีความเชื่อ การพังลงของกำแพงเมืองเยรีโคเป็นสิ่งยืนยันว่าคนของพระเจ้าต้องเชื่อในพระสัญญาของพระองค์ และเชื่อสิ่งที่พระองค์สั่ง แม้ว่าจะขัดกับความเข้าใจหรือวิธีการของเรา  สำหรับเราในวันนี้ กำแพงเยรีโคแต่ละท่านคืออะไร? ในแต่ละวันมีความท้าทายและอุปสรรคปัญหาที่เราต้องเผชิญอยู่เสมอ หนทางเดียวที่เราจะเติบโตขึ้นในความเชื่อคือ ยอมรับความท้าทายและอุปสรรคต่างๆเหล่านั้นด้วยวางใจในพระเจ้าว่าพระองค์จะทรงประทานชัยชนะให้เรา ฟีลิปส์บรู๊คส์ผู้รับใช้พระเจ้าท่านหนึ่งกล่าวว่า อย่าอธิษฐานขอชีวิตที่สะดวกสบาย  อย่าอธิษฐานขอความรับผิดชอบที่ทัดเทียมกับกำลังของท่าน   แต่จงขอให้มีกำลังทัดเทียมกับความรับผิดชอบที่พระเจ้าทรงมอบให้ คำถามอภิปราย 1. ทุกวันนี้ท่านดำเนินชีวิตอย่างผู้มีชัยในพระคริสต์ หรือท่านกำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อที่จะเป็นผู้ชนะ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? 2. โดยปกติ คำอธิษฐานของท่านเป็นไปในลักษณะใด ระหว่าง อธิษฐานขอความรับผิดชอบจากพระเจ้าที่ทัดเทียมกับกำลังของท่าน  หรือ  อธิษฐานขอให้ท่านมีกำลังทัดเทียมกับความรับผิดชอบที่พระเจ้าทรงมอบให้  เพราะเหตุใด?

ใคร่ครวญบุคคลในพระคัมภีร์

ซีโมนชาวไซรีน : เชื่อฟัง (มัทธิว 27:27-32)

            ปาเลสไตน์เป็นดินแดนที่ถูกยึดครองโดยทหารโรมัน  พวกเขาจะบังคับใครก็ได้ให้มาเป็นคนรับใช้   เพียงแค่ใช้ทวนของโรมันแตะลงบ่าของคนๆ นั้นก็เท่ากับเป็นสัญญาณเรียกเข้าประจำการ เมื่อพระเยซูคริสต์ล้มลงเพราะน้ำหนักของไม้กางเขน  นายพันทหารก็กวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อหาใครสักคนมาแบกแทนพระองค์  ซีโมนจึงถูกแตะที่บ่า  เขาผ่านมาในฐานะของแขกที่จะเข้าเมือง  ภาระหนักจึงตกลงที่บ่าของเขา  ณ เวลานั้น  ซีโมนคงโกรธแค้นทหารโรมัน ที่ใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงประชาชน  แต่เหตุการณ์กลับกลายเป็นสิทธิพิเศษ ที่แม้แต่อัครทูตระดับแนวหน้าก็ไม่ได้รับ  แต่กลับตกไปเป็นของคนบ้านนอก
          ด้วยเหตุนี้เราจึงได้เห็นสิทธิอำนาจที่พระเจ้าได้ทรงกำหนดให้ไว้ในแต่ละบุคคล  ภาระหนักที่อยู่บนบ่าของซีโมนได้พาเขาไปถึงที่กลโกธา ซึ่งจะเป็นที่ให้เราได้วางภาระหนักฝ่ายวิญญาณลง  และเราก็เชื่อว่าซีโมนได้ผ่านประสบการณ์นั้นมาแล้วด้วย

ข้อคิด:- “บรรดาผู้ที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก  จงมาหาเราและเราจะให้ท่านทั้งหลาย  หายเหนื่อยเป็นสุข” (มัทธิว 11:28)