โดย ศาสนาจารย์ธีรพันธ์ ขอบใจ
สรุปคำเทศนา
“คริสตมาสมหัศจรรย์แห่งรัก”
1 เปโตร 3:15 /ยอห์น 3:16
ความรักที่อัศจรรย์ของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์จึงเป็นของขวัญที่มีคุณค่ามากที่สุดที่เราสามารถรับได้ด้วยเงื่อนไข
“การเชื่อวางใจ” เมื่อเรารับแล้วเราก็จะประกาศให้โลกได้รับรู้เพื่อสามารถรับของขวัญแห่งความรักอัศจรรย์ในเทศกาลคริสต์มาสนี้ได้
/ความรักเป็นสิ่งที่ทุกคนตามหา
ท่ามกลางความขัดแย้งในสังคมปัจจุบัน
ที่ความขัดแย้งกลายเป็นประเด็นสร้างความเกลียดชังและการแบ่งฝั่งแบ่งฝ่าย /แต่ความรักที่อัศจรรย์ของพระเจ้า
เป็นความรักที่โลกนี้ไม่สามารถให้ได้
เพราะความรักนั้นมาจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นต้นแบบของ "ความรักแท้" 1 ยอห์น 4:7-9 ความรักมหัศจรรย์เป็นดังนี้ คือ…
1.รักที่ไม่มีเงื่อนไข โรม
5:8
แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา /ความรักที่อัศจรรย์ของพระเจ้าคือเป็น
“ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขให้อภัยอย่างไม่จำกัด”
ความรักของพระเจ้าเป็นความรักแบบอากาเป้คือ ไม่มีเงื่อนไข
ไม่มีเงื่อนเวลา
ไม่มีเงื่อนงำวาระที่ซ้อนเร้น .....เพื่อผลประโยชน์ของผู้รับแม้ว่าผู้รับไม่สมควรที่จะได้
ดังนั้นความรักที่ให้ไปเป็นพระคุณของพระเจ้า/ความรักอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงมอบให้เป็นความรักที่ช่วยให้พ้นจากความผิดและพ้นจากผลของความบาป
ให้หลุดพ้นจากความตายความบาปทำให้เรา รวมทั้งคนที่รักเราเกิดความทุกข์
และหลายครั้ง ความบาปของเราทำให้เราไปทำร้ายผู้อื่นทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว
ผลสุดท้ายเราก็กลับมาเสียใจต่อผลที่เกิดขึ้น /ถ้าเช่นนั้น
พระเยซูจะทรงลบล้างความบาปผิดของเราได้อย่างไร ….ความรักของพระเยซู เป็นความรักที่ลบล้างความผิดได้
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ทรงมีสิทธิ์ที่จะทำได้ และพระองค์ทรงเต็มใจที่จะทำ
เพื่อเห็นแก่เราแต่พระเจ้าทรงรักเรา เมื่อโทษของความบาปนั้นเรารับเองไม่ไหว
พระองค์ก็ทรงยินดีที่จะมารับแทนเรา คือพระเยซูคริสต์ซึ่งได้ถูกกำหนดไว้เพื่อมอบชีวิตของพระองค์เองมาเป็นค่าไถ่
มาจ่ายราคาแห่งความผิดบาปแทนเราเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ให้อภัยยิ่งกว่าสุดซอย
คือ ให้อภัยแบบไม่สิ้นสุด อิสยาห์ 53:5
/โรม 8:3 ##เพียงแต่เราต้องทำในส่วนของเรา คือ กลับใจใหม่ แค่เสียใจไม่พอ
เราต้องรับความรักนั้นจากพระเจ้า โดยเชื่อวางใจในพระองค์
ให้พระองค์เป็นพระเจ้าของเรา และรับการยกโทษจากพระองค์##
2.รักที่เสียสละยิ่งใหญ่ ยอห์น
15:13
ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้
คือการที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตน /พระเยซูแสดงความรักที่พระองค์มีต่อเรา
คือ พระองค์ทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อเรา โดยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน นี่คือความรักที่ยิ่งใหญ่ จนพระคัมภีร์บอกว่า
ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้/ความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา
ทำให้พระองค์เสียสละ ประทานของขวัญที่ดีที่สุดให้กับเรา คือ องค์พระเยซูคริสต์เจ้า
คนที่มีความรักต่อเพื่อน จะแสดงออกโดยการเสียสละเพื่อเพื่อน ….พระเยซูคริสต์คือ เพื่อนแท้ของเรา เพราะพระองค์ทรงยอมจ่ายราคาที่สูงสุด
นั่นคือชีวิตของพระองค์เพื่อเพื่อน นั่นคือเรา
ได้รับการยกฐานะในเป็นเพื่อนของพระองค์ เมื่อเราเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ /ยอห์น
15:14-15 ถ้าท่านทั้งหลายประพฤติตามที่เราสั่งท่าน
ท่านก็จะเป็นมิตรสหายของเราเราจะไม่เรียกท่านทั้งหลายว่าบ่าวอีก เพราะบ่าวไม่ทราบว่านายทำอะไร แต่เราเรียกท่านว่ามิตรสหาย
เพราะว่าทุกสิ่งที่เราได้ยินจากพระบิดาของเรา เราได้สำแดงแก่ท่านแล้ว/คำว่า “เพื่อน” จึงเป็นความอัศจรรย์ในชีวิตที่เราได้รับสิทธิ์พิเศษ
พระเยซูคริสต์รักเราแม้ความตาย พระองค์สามารถเสียสละเพื่อทำให้เรา
ได้รับชีวิตนิรันดร์ได้/ความหมายของคำว่า "เพื่อน" หมายถึง การสนิทสนม
ร่วมทุกข์ร่วมสุข ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
เพื่อนแท้จะมีความรักซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่ายามสุข หรือยามทุกข์
/สุภาษิต 17:17 มิตรสหายก็มีความรักอยู่ทุกเวลา
และพี่น้องก็เกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก เพื่อนแท้ จะไม่เดินหนีเราไปในยามที่เรามีปัญหา
“สถานการณ์พิสูจน์เพื่อนแท้”
3.รักที่ให้ออกไปไม่มีสิ้นสุด กิจการ 20:35
ข้าพเจ้าได้วางแบบอย่างไว้ให้ท่านทุกอย่างแล้ว
ให้เห็นว่าโดยทำงานเช่นนี้ควรจะช่วยคนที่มีกำลังน้อย ระลึกถึงพระวาทะของพระเยซูเจ้า ซึ่งพระองค์ตรัสว่า
"การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ"
ความรักอัศจรรย์ของพระเจ้า เป็นรักที่ให้ออกไปอย่างไม่มีสิ้นสุด /คนทั่วไปต้องการความรัก
จึงมุ่งไปที่การ “หา” ความรัก แต่ไม่สมหวังจึงมีความทุกข์
แต่ความรักของพระเจ้าให้เรามุ่งไปที่การ “ให้” เพราะ"การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ" ….พระเจ้าทรงสำแดงความรักแก่เราก่อน
จึงได้ให้ความรักกับเรา เมื่อเราแสวงหาความรักในพระเจ้า เราจะพบรักแท้/1ยอห์น
4:18-19 ความรักแท้ของพระเจ้าได้ขจัดความกลัว
นำไปสู่ความสมบูรณ์และความถูกต้องชอบธรรม หมายความว่า
ความรักนั้นไม่ใช่เห็นผิดเป็นชอบ ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อคนที่รักทำผิด ตามแบบอย่างความรักในพระธรรม (1 โครินธ์ 13:4-7 /ยอห์น 1:4-5) /พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงช่วยกู้เขา
ประทานพระพรแก่เขา และที่สำคัญที่สุด พระองค์จะทรงประทานพระเมสสิยาห์
หรือพระผู้ช่วยให้รอดแก่เขาด้วย
พระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมานั้นจะนำความสว่างมาถึงชีวิตของเขาและพระผู้ช่วยให้รอดที่มาตามคำพยากรณ์นั้นก็คือพระเยซูคริสต์
/พระวจนะได้บอกเราอย่างชัดเจน พระเยซูคริสต์คือ ผู้ที่พระเจ้าพระบิดาส่งมา
เพื่อการเสด็จมาประสูติบนโลกของพระองค์จะนำสู่แผนการช่วยมนุษย์และนำทางรอดมาถึงผู้คนอย่างแท้จริง พระองค์จะเข้ามาปกครอง เป็นที่ปรึกษา
เป็นองค์สันติราช ที่นำพาความชอบธรรม และความยุติธรรมให้เกิดขึ้น (อิสยาห์
9:6-7)
คือความรักของพระเจ้าที่ประทานพรให้ผ่านทางพระคริสต์ นั่นคือ
พรอัศจรรย์คือ ความรุ่งโรจน์ ความสว่าง และความชื่นชมยินดี
ในเทศกาลคริสต์มาส
ของขวัญที่ล้ำค่าในเทศกาลคริสต์ นั่นคือ
พระเยซูผู้เป็นที่ปรึกษามหัศจรรย์
พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์
พระบิดานิรันดร์ และองค์สันติราช
การเสด็จมาของพระเยซูคริสต์นั้นนำการปลดปล่อยจากอำนาจบาปและนำสันติสุขมาสู่ชีวิตของสิเมโอนเขาจึงมีความยินดีปรีดาในพระเจ้าอย่างยิ่ง
ผู้ที่เชื่อวางใจในพระองค์ก็จะมีสันติสุขได้เช่นเดียวกับสิเมโอน (ลูกา
2:28-32 28) ไม่มีผู้ใดสามารถพบสันติสุขที่แท้จริงได้หากปราศจากพระเยซูคริสต์ /ยอห์น 14:27 เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้ อย่าให้ใจของท่านวิตก และอย่ากลัวเลย เมื่อเรารับความรักของพระเจ้า
เราต้องมอบความรักสันติสุขของพระองค์ออกไปให้เพิ่มพูนมากขึ้น
ซี เอส ลูอิส (C.S. Lewis) นักเขียน
คริสเตียนที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้ที่เขียนหนังสือชุดนาร์เนีย ได้กล่าวถึงการแสดงออกของความรักว่า
...อย่าปล่อยเวลาให้เสียไปโดยการคิดว่าเราจะรักเพื่อนบ้านหรือไม่ แต่จงปฏิบัติราวกับว่าเรารักเพื่อนบ้านของเรา ทันทีที่เราทำเช่นนั้น
เราก็จะพบกับความลับที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง
เมื่อเราได้ปฏิบัติราวกับว่าเราได้รักใครคนหนึ่ง เราก็จะรู้สึกรักคนนั้น หากเราทำร้ายคนที่เราไม่ชอบ
เราก็จะพบว่าเราไม่ชอบเขามากขึ้น
หากเราตอบแทนเขาด้วยการทำดี
เราก็จะพบว่าเราไม่ชอบเขาน้อยลง ...
สรุป:คริสตมาสมหัศจรรย์แห่งรัก
1.
ความรักของพระเจ้าเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข /อภัยอย่างไม่จำกัด/เป็นความรักที่ช่วยให้พ้นจากความผิด
พ้นจากผลของความบาปและหลุดพ้นจากความตาย/ความบาปทำให้เกิดทุกข์ …หรืออาจทำร้ายคนอื่นได้/ความรักของพระเยซูเป็นความรักที่ลบล้างความบาปผิดได้
##อภัยสุดซอย## รับได้โดยเชื่อวางใจ
2.
รักที่เสียสละยิ่งใหญ่/ยอห์น 15:13
ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คือ
การที่ผู้หนึ่งผู้ใดสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตน/พระเยซูแสดงความรักของพระองค์ต่อเราโดยการทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อมนุษย์ทุกคน/พระเยซูนับให้เราเป็น
“มิตรสหาย” ของพระองค์
พระองค์เป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง รู้จัก รู้ใจ ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับเรา
3.
รักที่ให้ออกไปไม่มีสิ้นสุด/ความรักมหัศจรรย์ของพระเจ้า
เป็นรักที่ให้ออกไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด/คนทั่วไปมุ่ง “หา” ความรัก
แต่ความรักของพระเจ้ามุ่งไปที่การ “ให้” เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์
เพื่อทุกคนที่วางใจนั้น จะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์/ในช่วงที่พระเยซูคริสต์ประสูติ
ในโลกเต็มไปด้วยความบาปอยู่ในความมืดมิด พระเยซูเป็นดั่งความสว่างที่ส่องเข้าในโลก/ไม่มีผู้ใดสามารถพบสันติสุขแท้จริงได้
หากปราศจากพระเยซูคริสต์ เพราะสันติสุขมีอยู่ในพระเยซูคริสต์เท่านั้น