วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560

เทศนา 25/12/2559


โดย ศาสนาจารย์ธีรพันธ์   ขอบใจ





สรุปคำเทศนา


“คริสตมาสมหัศจรรย์แห่งรัก” 

1 เปโตร 3:15 /ยอห์น 3:16
ความรักที่อัศจรรย์ของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์จึงเป็นของขวัญที่มีคุณค่ามากที่สุดที่เราสามารถรับได้ด้วยเงื่อนไข การเชื่อวางใจเมื่อเรารับแล้วเราก็จะประกาศให้โลกได้รับรู้เพื่อสามารถรับของขวัญแห่งความรักอัศจรรย์ในเทศกาลคริสต์มาสนี้ได้ /ความรักเป็นสิ่งที่ทุกคนตามหา ท่ามกลางความขัดแย้งในสังคมปัจจุบัน ที่ความขัดแย้งกลายเป็นประเด็นสร้างความเกลียดชังและการแบ่งฝั่งแบ่งฝ่าย  /แต่ความรักที่อัศจรรย์ของพระเจ้า เป็นความรักที่โลกนี้ไม่สามารถให้ได้ เพราะความรักนั้นมาจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นต้นแบบของ "ความรักแท้"  1 ยอห์น 4:7-9 ความรักมหัศจรรย์เป็นดังนี้ คือ
1.รักที่ไม่มีเงื่อนไข  โรม 5:8  แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย  คือขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่นั้น  พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา /ความรักที่อัศจรรย์ของพระเจ้าคือเป็น ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขให้อภัยอย่างไม่จำกัดความรักของพระเจ้าเป็นความรักแบบอากาเป้คือ  ไม่มีเงื่อนไข  ไม่มีเงื่อนเวลา  ไม่มีเงื่อนงำวาระที่ซ้อนเร้น .....เพื่อผลประโยชน์ของผู้รับแม้ว่าผู้รับไม่สมควรที่จะได้ ดังนั้นความรักที่ให้ไปเป็นพระคุณของพระเจ้า/ความรักอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงมอบให้เป็นความรักที่ช่วยให้พ้นจากความผิดและพ้นจากผลของความบาป ให้หลุดพ้นจากความตายความบาปทำให้เรา รวมทั้งคนที่รักเราเกิดความทุกข์ และหลายครั้ง ความบาปของเราทำให้เราไปทำร้ายผู้อื่นทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว ผลสุดท้ายเราก็กลับมาเสียใจต่อผลที่เกิดขึ้น /ถ้าเช่นนั้น พระเยซูจะทรงลบล้างความบาปผิดของเราได้อย่างไร ….ความรักของพระเยซู  เป็นความรักที่ลบล้างความผิดได้ เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า ทรงมีสิทธิ์ที่จะทำได้  และพระองค์ทรงเต็มใจที่จะทำ เพื่อเห็นแก่เราแต่พระเจ้าทรงรักเรา เมื่อโทษของความบาปนั้นเรารับเองไม่ไหว พระองค์ก็ทรงยินดีที่จะมารับแทนเรา คือพระเยซูคริสต์ซึ่งได้ถูกกำหนดไว้เพื่อมอบชีวิตของพระองค์เองมาเป็นค่าไถ่ มาจ่ายราคาแห่งความผิดบาปแทนเราเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ให้อภัยยิ่งกว่าสุดซอย คือ ให้อภัยแบบไม่สิ้นสุด อิสยาห์ 53:5  /โรม 8:3    ##เพียงแต่เราต้องทำในส่วนของเรา คือ กลับใจใหม่ แค่เสียใจไม่พอ เราต้องรับความรักนั้นจากพระเจ้า โดยเชื่อวางใจในพระองค์ ให้พระองค์เป็นพระเจ้าของเรา และรับการยกโทษจากพระองค์##
2.รักที่เสียสละยิ่งใหญ่   ยอห์น 15:13  ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้  คือการที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตน /พระเยซูแสดงความรักที่พระองค์มีต่อเรา คือ พระองค์ทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อเรา โดยการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน  นี่คือความรักที่ยิ่งใหญ่  จนพระคัมภีร์บอกว่า ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้/ความรักที่พระเจ้ามีต่อเรา ทำให้พระองค์เสียสละ ประทานของขวัญที่ดีที่สุดให้กับเรา คือ องค์พระเยซูคริสต์เจ้า คนที่มีความรักต่อเพื่อน จะแสดงออกโดยการเสียสละเพื่อเพื่อน  ….พระเยซูคริสต์คือ เพื่อนแท้ของเรา  เพราะพระองค์ทรงยอมจ่ายราคาที่สูงสุด นั่นคือชีวิตของพระองค์เพื่อเพื่อน นั่นคือเรา ได้รับการยกฐานะในเป็นเพื่อนของพระองค์ เมื่อเราเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ /ยอห์น 15:14-15 ถ้าท่านทั้งหลายประพฤติตามที่เราสั่งท่าน  ท่านก็จะเป็นมิตรสหายของเราเราจะไม่เรียกท่านทั้งหลายว่าบ่าวอีก  เพราะบ่าวไม่ทราบว่านายทำอะไร  แต่เราเรียกท่านว่ามิตรสหาย  เพราะว่าทุกสิ่งที่เราได้ยินจากพระบิดาของเรา  เราได้สำแดงแก่ท่านแล้ว/คำว่า เพื่อนจึงเป็นความอัศจรรย์ในชีวิตที่เราได้รับสิทธิ์พิเศษ พระเยซูคริสต์รักเราแม้ความตาย พระองค์สามารถเสียสละเพื่อทำให้เรา ได้รับชีวิตนิรันดร์ได้/ความหมายของคำว่า "เพื่อน" หมายถึง การสนิทสนม ร่วมทุกข์ร่วมสุข ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน  เพื่อนแท้จะมีความรักซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่ายามสุข หรือยามทุกข์ /สุภาษิต 17:17 มิตรสหายก็มีความรักอยู่ทุกเวลา  และพี่น้องก็เกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก  เพื่อนแท้ จะไม่เดินหนีเราไปในยามที่เรามีปัญหา สถานการณ์พิสูจน์เพื่อนแท้

3.รักที่ให้ออกไปไม่มีสิ้นสุด กิจการ 20:35  ข้าพเจ้าได้วางแบบอย่างไว้ให้ท่านทุกอย่างแล้ว  ให้เห็นว่าโดยทำงานเช่นนี้ควรจะช่วยคนที่มีกำลังน้อย  ระลึกถึงพระวาทะของพระเยซูเจ้า  ซึ่งพระองค์ตรัสว่า  "การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ" ความรักอัศจรรย์ของพระเจ้า เป็นรักที่ให้ออกไปอย่างไม่มีสิ้นสุด /คนทั่วไปต้องการความรัก จึงมุ่งไปที่การ หาความรัก แต่ไม่สมหวังจึงมีความทุกข์ แต่ความรักของพระเจ้าให้เรามุ่งไปที่การ ให้เพราะ"การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ"    ….พระเจ้าทรงสำแดงความรักแก่เราก่อน จึงได้ให้ความรักกับเรา เมื่อเราแสวงหาความรักในพระเจ้า เราจะพบรักแท้/1ยอห์น 4:18-19 ความรักแท้ของพระเจ้าได้ขจัดความกลัว นำไปสู่ความสมบูรณ์และความถูกต้องชอบธรรม หมายความว่า ความรักนั้นไม่ใช่เห็นผิดเป็นชอบ ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อคนที่รักทำผิด  ตามแบบอย่างความรักในพระธรรม (1 โครินธ์ 13:4-7  /ยอห์น 1:4-5) /พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงช่วยกู้เขา ประทานพระพรแก่เขา และที่สำคัญที่สุด พระองค์จะทรงประทานพระเมสสิยาห์ หรือพระผู้ช่วยให้รอดแก่เขาด้วย     พระผู้ช่วยให้รอดที่จะเสด็จมานั้นจะนำความสว่างมาถึงชีวิตของเขาและพระผู้ช่วยให้รอดที่มาตามคำพยากรณ์นั้นก็คือพระเยซูคริสต์ /พระวจนะได้บอกเราอย่างชัดเจน พระเยซูคริสต์คือ ผู้ที่พระเจ้าพระบิดาส่งมา เพื่อการเสด็จมาประสูติบนโลกของพระองค์จะนำสู่แผนการช่วยมนุษย์และนำทางรอดมาถึงผู้คนอย่างแท้จริง  พระองค์จะเข้ามาปกครอง เป็นที่ปรึกษา เป็นองค์สันติราช ที่นำพาความชอบธรรม และความยุติธรรมให้เกิดขึ้น (อิสยาห์ 9:6-7)  คือความรักของพระเจ้าที่ประทานพรให้ผ่านทางพระคริสต์ นั่นคือ พรอัศจรรย์คือ  ความรุ่งโรจน์  ความสว่าง และความชื่นชมยินดี ในเทศกาลคริสต์มาส    ของขวัญที่ล้ำค่าในเทศกาลคริสต์ นั่นคือ พระเยซูผู้เป็นที่ปรึกษามหัศจรรย์   พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์  พระบิดานิรันดร์ และองค์สันติราช 
การเสด็จมาของพระเยซูคริสต์นั้นนำการปลดปล่อยจากอำนาจบาปและนำสันติสุขมาสู่ชีวิตของสิเมโอนเขาจึงมีความยินดีปรีดาในพระเจ้าอย่างยิ่ง  ผู้ที่เชื่อวางใจในพระองค์ก็จะมีสันติสุขได้เช่นเดียวกับสิเมโอน (ลูกา 2:28-32 28)  ไม่มีผู้ใดสามารถพบสันติสุขที่แท้จริงได้หากปราศจากพระเยซูคริสต์   /ยอห์น 14:27      เรามอบสันติสุขไว้ให้แก่ท่านทั้งหลาย  สันติสุขของเราที่ให้แก่ท่านนั้น  เราให้ท่านไม่เหมือนโลกให้  อย่าให้ใจของท่านวิตก  และอย่ากลัวเลย เมื่อเรารับความรักของพระเจ้า เราต้องมอบความรักสันติสุขของพระองค์ออกไปให้เพิ่มพูนมากขึ้น
ซี เอส ลูอิส (C.S. Lewis) นักเขียน คริสเตียนที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้ที่เขียนหนังสือชุดนาร์เนีย  ได้กล่าวถึงการแสดงออกของความรักว่า  ...อย่าปล่อยเวลาให้เสียไปโดยการคิดว่าเราจะรักเพื่อนบ้านหรือไม่ แต่จงปฏิบัติราวกับว่าเรารักเพื่อนบ้านของเรา   ทันทีที่เราทำเช่นนั้น เราก็จะพบกับความลับที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง     เมื่อเราได้ปฏิบัติราวกับว่าเราได้รักใครคนหนึ่ง   เราก็จะรู้สึกรักคนนั้น   หากเราทำร้ายคนที่เราไม่ชอบ เราก็จะพบว่าเราไม่ชอบเขามากขึ้น   หากเราตอบแทนเขาด้วยการทำดี  เราก็จะพบว่าเราไม่ชอบเขาน้อยลง ...
สรุป:คริสตมาสมหัศจรรย์แห่งรัก
1.        ความรักของพระเจ้าเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข /อภัยอย่างไม่จำกัด/เป็นความรักที่ช่วยให้พ้นจากความผิด พ้นจากผลของความบาปและหลุดพ้นจากความตาย/ความบาปทำให้เกิดทุกข์ หรืออาจทำร้ายคนอื่นได้/ความรักของพระเยซูเป็นความรักที่ลบล้างความบาปผิดได้ ##อภัยสุดซอย## รับได้โดยเชื่อวางใจ
2.        รักที่เสียสละยิ่งใหญ่/ยอห์น 15:13 ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คือ การที่ผู้หนึ่งผู้ใดสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตน/พระเยซูแสดงความรักของพระองค์ต่อเราโดยการทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อมนุษย์ทุกคน/พระเยซูนับให้เราเป็น มิตรสหายของพระองค์ พระองค์เป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง รู้จัก รู้ใจ ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับเรา

3.        รักที่ให้ออกไปไม่มีสิ้นสุด/ความรักมหัศจรรย์ของพระเจ้า เป็นรักที่ให้ออกไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด/คนทั่วไปมุ่ง หาความรัก แต่ความรักของพระเจ้ามุ่งไปที่การ ให้เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจนั้น จะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์/ในช่วงที่พระเยซูคริสต์ประสูติ ในโลกเต็มไปด้วยความบาปอยู่ในความมืดมิด พระเยซูเป็นดั่งความสว่างที่ส่องเข้าในโลก/ไม่มีผู้ใดสามารถพบสันติสุขแท้จริงได้ หากปราศจากพระเยซูคริสต์ เพราะสันติสุขมีอยู่ในพระเยซูคริสต์เท่านั้น