วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เทศนา 14/5/2560


              โดย..ผป.สรุศักดิ์  พันธศรี     
                           
            
      สรุปคำเทศนา
เรื่อง“ผู้นำสู่กาเปลี่ยนแปลงชีวิต” (กิจการ 3: 1 - 10 )

บทนำ  กิจการ 3 : 1– 10 (1)  ฝ่ายเปโตรกับยอห์น  กำลังขึ้นไปจะเข้าบริเวณพระวิหารในเวลาอธิษฐานเป็นเวลาบ่ายสามโมง(2)มีคนหนึ่งเป็นคนง่อยตั้งแต่คลอดออกมา  ทุกวันคนเคยหามเขามาวางไว้ริมประตูพระวิหาร  ซึ่งมีชื่อว่าประตูงาม เพื่อให้ขอทานจากคนที่จะเข้าไปในพระวิหาร (3) คนนั้นพอเห็นเปโตรกับยอห์นจะเข้าไปในพระวิหารก็ขอทาน(4) ฝ่ายเปโตรกับยอห์น  เพ่งดูเขาบอกว่า จงดูเราเถิด(5) คนขอทานนั้นได้เขม้นดู  คิดว่าจะได้อะไรจากท่าน(6) ฝ่ายเปโตรกล่าวว่า  เงินและทองเราไม่มี  แต่ที่เรามีอยู่เราจะให้ท่านคือในพระนามแห่งพระเยซูชาวนาซาเร็ธ  จงเดินเถิด(7) แล้วเปโตรจับมือขวาของเขาพยุงขึ้น  และในทันนั้นเท้าและข้อเท้าของเขาก็มีกำลัง(8) เขาจึงกระโดดขึ้นยืนและเดินเข้าไปในพระวิหาร  ด้วยกันกับเปโตรและยอห์น  เดินเต้นโลดสรรเสริญพระเจ้าไป(9)คนทั้งปวงเห็นเขาเดินและสรรเสริญพระเจ้า(10)จึงรู้ว่าเป็นคนนั้นซึ่งนั่งขอทานอยู่ที่ประตูงามแห่งพระวิหารเขาจึงพากันมีความประหลาดและอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่คนนั้น   ครั้งหนึ่งพระเยซูตรัสถามท่านว่า "ท่านคิดว่าเราเป็นใคร" และเปโตรได้ทูลว่า  "พระองค์คือพระคริสต์ พระบุตรพระเป็นเจ้า" พระเยซูจึงตรัสว่า "เราจะตั้งท่านเป็นหัวหน้าแทนเรา ทั้งจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์"(มธ.16 :15-19) เปโตร  เป็นพยานบุคคลผู้หนึ่งที่ได้แลเห็นอุโมงค์ว่างเปล่าของพระาจารย์ (ยน. 20:6) ซีโมนเปโตรตามมาถึงภายหลัง แล้วเข้าไปในอุโมงค์เห็นผ้าป่านวางอยู่   และได้เห็นการคืนพระชนม์ของพระเยซู (ลก. 23:34) พระเยซูจึงทรงอธิษฐานว่า "โอพระบิดาเจ้าข้า ขอโปรดอภัยโทษเขาเพราะว่า เขาไม่รู้ว่า เขาทำอะไร"  เขาก็เอาฉลองพระองค์ จับฉลากแบ่งปันกัน* (กจ. 1: 15 ; 15:7) คราวนั้นเปโตร จึงได้ยืนขึ้นท่ามกลางพี่น้องทั้งหลาย ซึ่งประชุมกันอยู่ มีรวมทั้งสิ้นประมาณร้อยยี่สิบคนและกล่าวว่า  เมื่อโต้แย้งกันมากแล้ว เปโตรจึงยืนขึ้นกล่าวว่า   "พี่น้องเอ๋ย ท่านทั้งหลายทราบอยู่ว่า เมื่อแรกเริ่มนั้น พระเจ้าได้ทรงเลือกข้าพเจ้าเองจากพวกท่านทั้งหลาย  ให้เป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐให้คนต่างชาติฟังและเชื่อ* (กจ. 2:14-41) และท่านเองเป็นคนแรกที่เห็นความจำเป็นที่  จะต้องนำเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ไปสู่พวกคนต่างชาติ  ( กจ.10-11 )  เมื่อเปโตร  มาที่กรุงโรม ท่านจึงได้กลายเป็นอัครทูตของทุก ๆ คน และได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างครบถ้วนคือเป็น "ศิลาหัวมุม" ของคริสตจักร   ท่านถูกจับตรึงกางเขน และได้ขอร้องให้หันศีรษะท่านลง เพราะคิดว่าไม่สมควรที่จะตายในลักษณะเดียวกับพระเยซูผู้เป็นพระอาจารย์    มัทธิว  28: 19  เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ   ให้เป็นสาวกของเรา   ให้รับบิพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา     พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ 1โครินธ์ 4: 1 ให้ทุกคนถือว่าเราเป็นคนรับใช้ของพระคริสต์ และเป็นผู้อารักขาสิ่งล้ำลึกกองพระเจ้า   พระเยซูคริสต์  ใช้คำว่า  เจ้าทั้งหลาย  เพราะฉะนั้น   ผู้นำสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิต  ดูการเปลี่ยนแปลงในพระคัมภีร์     ทิโมธี ตอบรับการท้าทายให้เป็นผู้ประกาศแนวหน้า  กิจการ 16: 3ปริสิลลา  มีน้ำใจเป็นผู้ประกาศและมีตะลันในการสอน กิจการ 18:18,26 ซีลา เป็นผู้ประกาศแนวหน้า  กิจการ  15 :40 สเทเฟน   กล้าประกาศเรื่องพระเจ้าแก่คนทุกระดับ  กิจการ 6 : 9 - 10,7:1 อปอนโล  มีตะลันในการเทศนาและสั่งสอนกิจการ18:25    จากพระคำดังกล่าวนี้  แบ่งออกเป็น 5 ลักษณะหลัก ๆ  ดังนี้  คือ   
1. เป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับการนมัสการพระเจ้า    กิจการ 3:1  ฝ่ายเปโตรกับยอห์นกำลังขึ้นไปจะเข้าพระวิหารในเวลาอธิษฐาน เป็นเวลาบ่ายสามโมง กิจการ 18:4  เปาโลได้โต้เถียงในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต ได้ชักชวนทั้งพวกยิวและพวกกรีก   ฮีบรู 10:25 ซึ่งเราเคยประชุมกันนั้นอย่าให้หยุด เหมือนอย่างบางคนเคยกระทำนั้นแต่จงเตือนสติกันและกันและให้มากยิ่งขึ้นเมื่อท่านทั้งหลายเห็นวันเวลานั้นใกล้เข้ามาแล้ว     การนมัสการพระเจ้าเป็นวิถีชีวิตของผู้ที่รักพระเจ้า    เป็นเรื่องปกติของชีวิตผู้ที่รัก
พระเจ้าจะเป็นผู้ที่กระหายหาพระเจ้า เหมือนกวางน้อยกระเสือกกระสนหาน้ำ อยากพบพระเจ้า    การนมัสการเป็นสำแดงความสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าเป็นการปรากฏตัวต่อพระพักตร์พระเจ้าว่าเรายังมีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าไม่มีเปลี่ยนแปลง การนมัสการพระเจ้าเป็นการมาเติมพลังให้กับชีวิต  
2.เป็นผู้ที่สนใจชีวิตผู้อื่น    กิจการ 3:4  ฝ่ายเปโตรกับยอห์นเพ่งดูเขาบอกว่า "จงดูพวกเราเถิด" เปโตรกับยอห์นเพ่งดูคนง่อย  เป็นท่าทีที่บ่งบอกถึงความสนใจและใส่ใจในชีวิตของคนง่อย     แต่เปโตรกับยอห์น  ได้มีท่าทีที่แสดงออกถึงความสนใจและใส่ใจคนง่อยนี้  ถึงแม้คนอื่น จะไม่ได้สนใจเลยก็ตาม   แต่นี่ก็คือมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกับ     มัทธิว 10:42  และถ้าผู้ใดจะเอาน้ำเย็นสักถ้วยหนึ่ง ให้คนเล็กน้อยเหล่านี้คนใดคนหนึ่งดื่ม เพราะเป็นศิษย์ของเรา  เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนนั้นจะขาดบำเหน็จก็หามิได้ 
.เป็นผู้ที่ให้เกียรติคนอื่น  กิจการ 3:6 เปโตรกล่าวว่า "เงินและทองข้าพเจ้าไม่มี แต่ที่ข้าพเจ้ามีอยู่ข้าพเจ้าจะให้ท่าน คือในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธ จงลุกขึ้นเดินไปเถิด โรม 12:10  จงรักกันฉันพี่น้อง ส่วนการที่ให้เกียรติแก่กันและกันนั้น จงถือว่าผู้อื่นดีกว่าตัว  โคโลสี 3:12  เหตุฉะนั้นในฐานะที่เป็นพวกซึ่งพระเจ้าทรงเลือกไว้ เป็นพวกที่บริสุทธิ์และเป็นพวกที่ทรงรัก จงสวมใจเมตตา ใจปรานี ใจถ่อม ใจอ่อนสุภาพ ใจอดทนไว้นาน  
4.รู้จักใช้สิทธิอำนาจจากพระเจ้า (กิจการ3:6) เปโตรกล่าวว่า "เงินและทองข้าพเจ้าไม่มี แต่ที่ข้าพเจ้ามีอยู่ข้าพเจ้าจะให้ท่าน คือในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธ จงลุกขึ้นเดินไปเถิด" (มัทธิว18:18) เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า สิ่งใดซึ่งท่านจะผูกมัดในโลก ก็จะถูกผูกมัดในสวรรค์ และสิ่งซึ่งท่านจะปล่อยในโลกก็จะถูกปล่อยในสวรรค์(ข้อ 19) เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายอีกว่า ถ้าในพวกท่านที่อยู่ในโลกสองคนจะร่วมใจกันขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ก็จะทรงกระทำให้  5.หนุนเสริมชีวิต  กิจการ 3:7 แล้วเปโตรจับมือขวาของเขาพยุงขึ้น และในทันใดนั้นเท้าและข้อเท้าของเขาก็มีกำลัง   ภาพของท่านเปโตร  ที่ได้ยื่นมือออกไปจับมือขวาของคนง่อย  แล้วพยุงขึ้นเป็นภาพที่บ่งบอกให้เห็นชัดเจนว่า  การช่วยเหลือคนง่อย  ในเหตุการณ์นี้  เปโตรได้ยื่นมือออกไปเสริมแรงครั้งแรกให้แก่คนง่อย  ให้ได้มีกำลัง  การหนุนเสริมชีวิต  ในระยะแรกเริ่ม ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิต    เป็นท่าทีที่ผู้นำและเราทุกคนจะต้องตระหนักและให้ความสำคัญ    ยิ่งผู้เชื่อใหม่  ๆ   ก็มักจะมีอุปสรรคเยอะแยะมากมายในการดเนินชีวิต  ที่เขาจะต้องเผชิญ  เป็นทั้งด่านทดสอบความเชื่อ  เป็นทั้งการแย่งชิงจิตใจกับฝ่ายตรงกันข้ามกับพระเจ้า    การหนุนเสริมชีวิตกระทำได้ในหลายรูปแบบ หลายด้าน เช่น ด้านจิตวิญญาณ  จะทำอย่างไรที่จะทำให้พี่น้องที่กำลังอ่อนแรงลงด้านความเชื่อ  สืบเนื่องจากภาระปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต  ปัญหาจากหน้าที่การงาน  ปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจ  ภาระหนี้สิน  ภาระจากคนในบ้านไม่เข้าใจกันพี่น้องเหล่านี้มีความต้องการ  การหนุนใจ  ต้องการกำลังใจ  ต้องการคำพูดที่ฟังแล้วมีกำลังขึ้น  ต้องการคำปรึกษาหาทางออกของปัญหาให้มีกำลังใจขึ้น  ถามว่า เวลานี้พี่น้องสมาชิกคริสตจักรของเรามีไหม  ดังตัวอย่างเหล่านี้   การเป็นผู้นำสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิต   ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ ได้หมายถึงเราผู้เชื่อที่ได้รับฉันทะภาระจากพระเยซูคริสต์ด้วยกันทุกคน   เราจำเป็นต้องบอกเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ให้คนอื่นฟัง  เพื่อเขาจะได้รับการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่  เสริมสร้างเขาให้หันหลังกลับจากให้ชีวิตเก่า 
 สรุป:  การที่เราจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นได้อย่างยั่งยืนนั้นเราจะต้องมีลักษณะชีวิตของเราในเบื้องต้น คือ 1.ให้ความสำคัญและเข้าร่วมนมัสการอย่างสม่ำเสมอ  
2.ให้ความสนใจในชีวิตผู้อื่น   
3. รู้จักให้เกียรติผู้อื่น  
4.รู้จักใช้สิทธิอำนาจจากพระเจ้า    
5.ให้การหนุนเสริมชีวิต