โดย..ผป.สรุศักดิ์ พันธศรี
สรุปคำเทศนา
เรื่อง“ผู้นำสู่กาเปลี่ยนแปลงชีวิต” (กิจการ 3: 1 - 10 )
บทนำ กิจการ 3 : 1– 10 (1) ฝ่ายเปโตรกับยอห์น กำลังขึ้นไปจะเข้าบริเวณพระวิหารในเวลาอธิษฐานเป็นเวลาบ่ายสามโมง(2)มีคนหนึ่งเป็นคนง่อยตั้งแต่คลอดออกมา
ทุกวันคนเคยหามเขามาวางไว้ริมประตูพระวิหาร ซึ่งมีชื่อว่าประตูงาม เพื่อให้ขอทานจากคนที่จะเข้าไปในพระวิหาร
(3) คนนั้นพอเห็นเปโตรกับยอห์นจะเข้าไปในพระวิหารก็ขอทาน(4)
ฝ่ายเปโตรกับยอห์น เพ่งดูเขาบอกว่า “จงดูเราเถิด”(5) คนขอทานนั้นได้เขม้นดู
คิดว่าจะได้อะไรจากท่าน(6) ฝ่ายเปโตรกล่าวว่า “เงินและทองเราไม่มี
แต่ที่เรามีอยู่เราจะให้ท่านคือในพระนามแห่งพระเยซูชาวนาซาเร็ธ จงเดินเถิด”(7)
แล้วเปโตรจับมือขวาของเขาพยุงขึ้น
และในทันนั้นเท้าและข้อเท้าของเขาก็มีกำลัง(8)
เขาจึงกระโดดขึ้นยืนและเดินเข้าไปในพระวิหาร
ด้วยกันกับเปโตรและยอห์น
เดินเต้นโลดสรรเสริญพระเจ้าไป(9)คนทั้งปวงเห็นเขาเดินและสรรเสริญพระเจ้า(10)จึงรู้ว่าเป็นคนนั้นซึ่งนั่งขอทานอยู่ที่ประตูงามแห่งพระวิหารเขาจึงพากันมีความประหลาดและอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่คนนั้น ครั้งหนึ่งพระเยซูตรัสถามท่านว่า "ท่านคิดว่าเราเป็นใคร" และเปโตรได้ทูลว่า "พระองค์คือพระคริสต์
พระบุตรพระเป็นเจ้า" พระเยซูจึงตรัสว่า "เราจะตั้งท่านเป็นหัวหน้าแทนเรา
ทั้งจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์"(มธ.16 :15-19) เปโตร
เป็นพยานบุคคลผู้หนึ่งที่ได้แลเห็นอุโมงค์ว่างเปล่าของพระอาจารย์ (ยน. 20:6)
ซีโมนเปโตรตามมาถึงภายหลัง แล้วเข้าไปในอุโมงค์เห็นผ้าป่านวางอยู่
และได้เห็นการคืนพระชนม์ของพระเยซู
(ลก. 23:34) พระเยซูจึงทรงอธิษฐานว่า "โอพระบิดาเจ้าข้า ขอโปรดอภัยโทษเขาเพราะว่า
เขาไม่รู้ว่า เขาทำอะไร" เขาก็เอาฉลองพระองค์ จับฉลากแบ่งปันกัน* (กจ. 1: 15 ; 15:7) คราวนั้นเปโตร จึงได้ยืนขึ้นท่ามกลางพี่น้องทั้งหลาย
ซึ่งประชุมกันอยู่ มีรวมทั้งสิ้นประมาณร้อยยี่สิบคนและกล่าวว่า เมื่อโต้แย้งกันมากแล้ว เปโตรจึงยืนขึ้นกล่าวว่า "พี่น้องเอ๋ย ท่านทั้งหลายทราบอยู่ว่า
เมื่อแรกเริ่มนั้น พระเจ้าได้ทรงเลือกข้าพเจ้าเองจากพวกท่านทั้งหลาย ให้เป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐให้คนต่างชาติฟังและเชื่อ* (กจ. 2:14-41) และท่านเองเป็นคนแรกที่เห็นความจำเป็นที่ จะต้องนำเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ไปสู่พวกคนต่างชาติ ( กจ.10-11 ) เมื่อเปโตร
มาที่กรุงโรม ท่านจึงได้กลายเป็นอัครทูตของทุก ๆ คน
และได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างครบถ้วนคือเป็น "ศิลาหัวมุม"
ของคริสตจักร ท่านถูกจับตรึงกางเขน
และได้ขอร้องให้หันศีรษะท่านลง เพราะคิดว่าไม่สมควรที่จะตายในลักษณะเดียวกับพระเยซูผู้เป็นพระอาจารย์ มัทธิว 28: 19 เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบิพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ 1โครินธ์ 4: 1 ให้ทุกคนถือว่าเราเป็นคนรับใช้ของพระคริสต์ และเป็นผู้อารักขาสิ่งล้ำลึกกองพระเจ้า พระเยซูคริสต์ ใช้คำว่า
“เจ้าทั้งหลาย เพราะฉะนั้น
ผู้นำสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิต ดูการเปลี่ยนแปลงในพระคัมภีร์ ทิโมธี ตอบรับการท้าทายให้เป็นผู้ประกาศแนวหน้า กิจการ 16: 3ปริสิลลา มีน้ำใจเป็นผู้ประกาศและมีตะลันในการสอน กิจการ
18:18,26 ซีลา เป็นผู้ประกาศแนวหน้า กิจการ
15 :40 สเทเฟน กล้าประกาศเรื่องพระเจ้าแก่คนทุกระดับ กิจการ 6 : 9 - 10,7:1 อปอนโล มีตะลันในการเทศนาและสั่งสอนกิจการ18:25 จากพระคำดังกล่าวนี้ แบ่งออกเป็น 5 ลักษณะหลัก
ๆ ดังนี้
คือ
1. เป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับการนมัสการพระเจ้า
กิจการ
3:1
ฝ่ายเปโตรกับยอห์นกำลังขึ้นไปจะเข้าพระวิหารในเวลาอธิษฐาน
เป็นเวลาบ่ายสามโมง กิจการ 18:4 เปาโลได้โต้เถียงในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต
ได้ชักชวนทั้งพวกยิวและพวกกรีก ฮีบรู 10:25 ซึ่งเราเคยประชุมกันนั้นอย่าให้หยุด
เหมือนอย่างบางคนเคยกระทำนั้นแต่จงเตือนสติกันและกันและให้มากยิ่งขึ้นเมื่อท่านทั้งหลายเห็นวันเวลานั้นใกล้เข้ามาแล้ว
การนมัสการพระเจ้าเป็นวิถีชีวิตของผู้ที่รักพระเจ้า เป็นเรื่องปกติของชีวิตผู้ที่รัก
พระเจ้าจะเป็นผู้ที่กระหายหาพระเจ้า
เหมือนกวางน้อยกระเสือกกระสนหาน้ำ อยากพบพระเจ้า การนมัสการเป็นสำแดงความสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าเป็นการปรากฏตัวต่อพระพักตร์พระเจ้าว่าเรายังมีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าไม่มีเปลี่ยนแปลง
การนมัสการพระเจ้าเป็นการมาเติมพลังให้กับชีวิต
2.เป็นผู้ที่สนใจชีวิตผู้อื่น กิจการ 3:4 ฝ่ายเปโตรกับยอห์นเพ่งดูเขาบอกว่า
"จงดูพวกเราเถิด" เปโตรกับยอห์นเพ่งดูคนง่อย
เป็นท่าทีที่บ่งบอกถึงความสนใจและใส่ใจในชีวิตของคนง่อย แต่เปโตรกับยอห์น
ได้มีท่าทีที่แสดงออกถึงความสนใจและใส่ใจคนง่อยนี้ ถึงแม้คนอื่น จะไม่ได้สนใจเลยก็ตาม แต่นี่ก็คือมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกับ มัทธิว
10:42 และถ้าผู้ใดจะเอาน้ำเย็นสักถ้วยหนึ่ง ให้คนเล็กน้อยเหล่านี้คนใดคนหนึ่งดื่ม
เพราะเป็นศิษย์ของเรา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
คนนั้นจะขาดบำเหน็จก็หามิได้
3 .เป็นผู้ที่ให้เกียรติคนอื่น กิจการ 3:6 เปโตรกล่าวว่า
"เงินและทองข้าพเจ้าไม่มี แต่ที่ข้าพเจ้ามีอยู่ข้าพเจ้าจะให้ท่าน คือในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธ
จงลุกขึ้นเดินไปเถิด โรม 12:10
จงรักกันฉันพี่น้อง ส่วนการที่ให้เกียรติแก่กันและกันนั้น
จงถือว่าผู้อื่นดีกว่าตัว โคโลสี 3:12
เหตุฉะนั้นในฐานะที่เป็นพวกซึ่งพระเจ้าทรงเลือกไว้ เป็นพวกที่บริสุทธิ์และเป็นพวกที่ทรงรัก
จงสวมใจเมตตา ใจปรานี ใจถ่อม ใจอ่อนสุภาพ ใจอดทนไว้นาน
4.รู้จักใช้สิทธิอำนาจจากพระเจ้า (กิจการ3:6) เปโตรกล่าวว่า
"เงินและทองข้าพเจ้าไม่มี แต่ที่ข้าพเจ้ามีอยู่ข้าพเจ้าจะให้ท่าน
คือในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์ชาวนาซาเร็ธ จงลุกขึ้นเดินไปเถิด" (มัทธิว18:18) เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
สิ่งใดซึ่งท่านจะผูกมัดในโลก ก็จะถูกผูกมัดในสวรรค์ และสิ่งซึ่งท่านจะปล่อยในโลกก็จะถูกปล่อยในสวรรค์(ข้อ
19) เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายอีกว่า
ถ้าในพวกท่านที่อยู่ในโลกสองคนจะร่วมใจกันขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ก็จะทรงกระทำให้ 5.หนุนเสริมชีวิต กิจการ 3:7 แล้วเปโตรจับมือขวาของเขาพยุงขึ้น
และในทันใดนั้นเท้าและข้อเท้าของเขาก็มีกำลัง
ภาพของท่านเปโตร
ที่ได้ยื่นมือออกไปจับมือขวาของคนง่อย
แล้วพยุงขึ้นเป็นภาพที่บ่งบอกให้เห็นชัดเจนว่า การช่วยเหลือคนง่อย ในเหตุการณ์นี้
เปโตรได้ยื่นมือออกไปเสริมแรงครั้งแรกให้แก่คนง่อย ให้ได้มีกำลัง
การหนุนเสริมชีวิต ในระยะแรกเริ่ม
ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิต
เป็นท่าทีที่ผู้นำและเราทุกคนจะต้องตระหนักและให้ความสำคัญ ยิ่งผู้เชื่อใหม่ ๆ
ก็มักจะมีอุปสรรคเยอะแยะมากมายในการดเนินชีวิต ที่เขาจะต้องเผชิญ เป็นทั้งด่านทดสอบความเชื่อ
เป็นทั้งการแย่งชิงจิตใจกับฝ่ายตรงกันข้ามกับพระเจ้า การหนุนเสริมชีวิตกระทำได้ในหลายรูปแบบ
หลายด้าน เช่น ด้านจิตวิญญาณ
จะทำอย่างไรที่จะทำให้พี่น้องที่กำลังอ่อนแรงลงด้านความเชื่อ สืบเนื่องจากภาระปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต ปัญหาจากหน้าที่การงาน ปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจ ภาระหนี้สิน
ภาระจากคนในบ้านไม่เข้าใจกันพี่น้องเหล่านี้มีความต้องการ การหนุนใจ
ต้องการกำลังใจ ต้องการคำพูดที่ฟังแล้วมีกำลังขึ้น ต้องการคำปรึกษาหาทางออกของปัญหาให้มีกำลังใจขึ้น ถามว่า
เวลานี้พี่น้องสมาชิกคริสตจักรของเรามีไหม
ดังตัวอย่างเหล่านี้ การเป็นผู้นำสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิต ดังที่กล่าวมาแล้วนี้
ได้หมายถึงเราผู้เชื่อที่ได้รับฉันทะภาระจากพระเยซูคริสต์ด้วยกันทุกคน เราจำเป็นต้องบอกเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ให้คนอื่นฟัง เพื่อเขาจะได้รับการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่
เสริมสร้างเขาให้หันหลังกลับจากให้ชีวิตเก่า
สรุป:
การที่เราจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นได้อย่างยั่งยืนนั้นเราจะต้องมีลักษณะชีวิตของเราในเบื้องต้น
คือ 1.ให้ความสำคัญและเข้าร่วมนมัสการอย่างสม่ำเสมอ
2.ให้ความสนใจในชีวิตผู้อื่น
3. รู้จักให้เกียรติผู้อื่น
4.รู้จักใช้สิทธิอำนาจจากพระเจ้า
5.ให้การหนุนเสริมชีวิต