วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เทศนา 5/2/2560


สรุปคำเทศนา
หลงทาง (ยอห์น 14:6)
                                                                                                            โดย ..ผป. ประสาท  หมอกชัย       
      
           คำนำ:- วันที่ 3 ธันวาคม 2016 ขณะที่ข้าพเจ้าขับรถเลียบริมโขงชมความสวยงามของธรรมชาติที่พระเจ้าทรงสร้าง   มีรถเก๋งคันหนึ่งวิ่งแซงหน้ามีข้อความที่เขียนที่ท้ายรถ “อย่าตามหลัง กำลังหลงทาง”    แสดงว่ารถที่นำหน้ากำลังหลงทาง ถ้าเราตามไปอาจจะไปไม่ถึงเป้าหมาย ปลายทางหรือมองในมุมด้านชีวิตฝ่ายวิญญาณ  คนที่นำหน้าเราอาจมีชีวิตที่ประพฤติไม่ดี ไม่สมควรเป็นผู้นำ  เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีถ้ามีผู้ลอกเลียนแบบชีวิต พบกับความสูญเสีย ความผิดหวังความล้มเหลว  เหมือนกับคนที่เราเดินตามก็ได้ ดังคำกล่าวว่า หลงทางเสียเวลา หลงติดยาเสียอนาคต
1.                                    คนอิสราเอลหลงทางอยู่ในถิ่นธุระกันดาร 40 ปี กันดานวิถี 14:26 – 35 พระเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า "เราจะทนชุมนุมชนชั่วร้ายนี้บ่นต่อเรานานสักเท่าใด เราได้ยินเสียงบ่นของคนอิสราเอลซึ่งเขาบ่นว่าเรา เจ้าจงกล่าวแก่เขาว่า พระเจ้าตรัสว่า 'เรามีชีวิตอยู่ฉันใด เราจะกระทำสิ่งที่เจ้าทั้งหลายบ่นให้เราได้ยินแก่เจ้าฉันนั้น ซากศพของเจ้าจะตกหล่นอยู่ในถิ่นทุรกันดารนี้* จำนวนคนทั้งหมดของเจ้านับตั้งแต่อายุยี่สิบปีขึ้นไป ผู้ใดที่บ่นว่าเรา  จะไม่มีสักคนหนึ่งที่มาถึงแผ่นดินที่เราสัญญาว่าจะให้เจ้าอาศัยอยู่ เว้นแต่คาเลบบุตรเยฟุนเนห์และโยชูวาบุตรนูน  แต่ลูกเล็กที่เจ้าทั้งหลายว่าจะเป็นเหยื่อนั้นเราจะพาเขาทั้งหลายเข้าไปและเขาจะรู้จักแผ่นดินที่เจ้าทั้งหลายได้สบประมาท ส่วนเจ้าทั้งหลาย ศพของเจ้าจะตกหล่นอยู่ในถิ่นทุรกันดารนี้  ลูกหลานของเจ้าทั้งหลายจะเป็นผู้เลี้ยงแกะอยู่ในถิ่นทุรกันดารถึงสี่สิบปี* เขาจะทนโทษการเล่นชู้ของเจ้า จนกว่าจำนวนซากศพของเจ้าจะอยู่ในถิ่นทุรกันดารนี้ครบ ตามจำนวนวันที่เจ้าเข้าไปสอดแนมในแผ่นดินนั้น ซึ่งมีสี่สิบวัน วันหนึ่งจะเป็นปีหนึ่ง เจ้าทั้งหลายจะรับโทษความผิดของเจ้าอยู่สี่สิบปี เจ้าทั้งหลายจะทราบถึงความไม่พอใจของเรา เราผู้เป็นพระเจ้าได้ลั่นวาจาแล้ว เราจะกระทำดังนั้นแก่ชุมนุมชนที่ชั่วร้าย ซึ่งร่วมกันคิดต่อสู้เรา  เขาจะสิ้นสุดลงในถิ่นทุรกันดาร เขาจะตายอยู่ที่นั่น" เหตุที่พวกเขาต้องหลงทางและไม่มีสิทธิ์เข้าสู้แผ่นดินแห่งคำสัญญาได้ เพราะอิสราเอลกบฏต่อพระเจ้ากลับไปกราบไหว้รูปเคารพ ต่อว่าพระเจ้าอย่างเสียๆหายๆ ชีวิตพวกเขาจึงต้องวนเวียนอยู่ในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลา 40 ปี   มีคริสเตียนจำนวนมากที่กำลังหลงทางไปสู่เส้นทางเก่าเพราะไม่สามรถเอาชนะต่อการทดลองได้ เช่น กลับไปหารูปเคารพ ติดสิ่งเสพติด ติดการพนัน ฯลฯ เป็นสิ่งที่น่าเสียใจ และเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่มารซาตานแย่งชิงชีวิตเขาไป
2.                                    มนุษย์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีความผูกพันสนิทอยู่กับรูปเคารพคิดว่านั่นคือสิ่งที่พึ่งสำคัญของชีวิตขณะที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ พ่อผมเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดนำชาวบ้านสร้างรูปเคารพขนาดใหญ่ใช้
เงิน เหล็ก หิน ปูน ทราย เป็นจำนวนมหาศาล เมื่อสร้างสำเร็จแล้วก็นำประชาชนไปกราบไหว้บูชาด้วยดอกไม้ ธูป เทียน ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตเพื่อฝากผี ฝากไข้เมื่อท่านสึกออกมาพบกับพระเยซูคริสต์ไม่เคยไปข้องแวะอีกเลย และมองดูคนเหล่านั้นด้วยความสงสารเหมือนกับเราเมื่อก่อนนี้ที่หลงทาง แต่เวลานี้พบแล้วทางชีวิต  โรม 1:25 เปาโล พูดว่าเขาทั้งหลายเอาความจริงของพระเจ้ามาแลกกับความเท็จ ไม่ได้กราบไหว้พระผู้สร้างแต่กราบไหว้ในสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง
3.                                    มีคริสเตียนส่วนหนึ่งกำลังหลงทางโดยยึดเอาทรัพย์สินเงินทองชื่อเสียงตำแหน่งเป็นที่พึ่งชีวิตผูกพันอยู่กับสิ่งที่อยู่ภายนอกแทนก็การเสาะแสวงหาพระประสงค์และน้ำพระทัยพระเจ้า ลูกา 12:13 –21  มีผู้หนึ่งในหมู่คนทูลพระองค์ว่า "อาจารย์เจ้าข้า ขอสั่งพี่ชายของข้าพเจ้าให้แบ่ง  มรดกให้กับข้าพเจ้าแต่พระองค์ตรัสตอบเขาว่า "บุรุษเอ๋ย ใครได้ตั้งเราให้เป็นตุลาการ หรือเป็นผู้แบ่งมรดกให้ท่านแล้วพระองค์จึงตรัสแก่เขาทั้งหลายว่า "จงระวังและเว้นเสียจากการโลภทุกประการ  เพราะว่าชีวิตของคนมิได้อยู่ในการที่มีของฟุ่มเฟือยพระองค์จึงตรัสคำเปรียบข้อหนึ่งให้เขาฟังว่า "ไร่นาของเศรษฐีคนหนึ่งเกิดผลบริบูรณ์มาก  เศรษฐีคนนั้นจึงคิดในใจว่า 'เราจะทำ  อย่างไรดี เพราะว่าเราไม่มีที่ที่  จะเก็บผลของเราเขาจึงคิดว่า 'เราจะทำอย่างนี้ คือจะรื้อยุ้งฉางของเราเสียและจะสร้างใหม่ให้โตขึ้น  แล้วเราจะรวบรวมข้าวและสมบัติทั้งหมดของเราไว้ที่นั่น  แล้วเราจะว่าแก่จิตใจของเราว่า "จิตใจเอ๋ยเจ้ามีทรัพย์สมบัติมากเก็บไว้พอหลายปี จงอยู่สบาย กิน ดื่ม และรื่นเริงเถิดแต่พระเจ้าตรัสแก่เขาว่า 'โอ คนโง่ ในคืนวันนี้ชีวิตของเจ้าจะต้องเรียกเอาไปจากเจ้า  แล้วของซึ่งเจ้าได้รวบรวมไว้นั้นจะเป็นของใครเล่าคนที่ส่ำสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัว และมิได้มั่งมีจำเพาะพระเจ้าก็เป็นเช่นนั้นแหละ" พระเยซูได้ยกเอาคำอุปมาเกี่ยวกับเศรษฐีที่มุ่งทำธุรกิจ ขยายกิจการแล้วบอกตนเองว่าอยู่อย่างสุขสบาย กิน ดื่ม และรื่นเริงเถิด แต่พระเยซูตรัสว่า คนโง่ คืนนี้ถ้าเจ้าเสียชีวิตคืนนี้ แล้วทรัพย์สินที่มีอยู่จะให้ใคร เพราะเขาแสวงหาทรัพย์สมบัติเพื่อตัวเองเท่านั้นไม่เคยแจกจ่าย แบ่งปัน ให้คนที่อยากจนเลย  ยอห์น 14:6 เราเป็นทางนั้นเป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดไปถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา
สรุป: - ชีวิตมนุษย์เปรียบเหมือนการเดินทาง บางคนก็เดินทางมาอย่างยาวนาน บางคนก็พึ่งจะเริ่มเดิน ในระหว่างการเดินทางนั้นเราอาจจะหลงทางอยู่บ้าง คือออกนอกเส้นทาง แต่ถ้ารู้ตัวก็ให้เรารีบกลับมาสู่ทางของพระเจ้า