สรุปคำเทศนา
เรื่อง “การช่วยกู้” (อิสยาห์ 61:1 - 3)
คำนำ :- สถานการณ์ของครอบครัว ของสังคมประเทศและโลก ต้องเผชิญกับปัญหา อุปสรรค์หลายครั้งถึงกับเป็นวิกฤตชีวิตก็มีซึ่งเป็นบ่อนทำลายความสงบของผู้คนมากมาย มีอำนาจได้หาหนทางแก้ปัญหาไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบและข้อกฎหมายต่างๆมาปราบปรามลงโทษก็ไม่ทำให้ปัญหาลดน้องลงมีแต่จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ๆใครจะเป็นผู้ช่วยแก้ไขกอบกู้สถานการณ์เหล่านี้ได้
1.เรานำข่าวดีมายังคนที่ทุกข์ใจ ปลอบโยนคนที่ชอกซ้ำใจ
1.1. ความทุกข์มีอยู่กับทุก ๆ คนโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่เลือกฐานะ อาชีพตำแหน่ง ฯลฯ เกิดขึ้นและมีอยู่อย่างสม่ำเสมอภาคกัน ปัจจัยซึ่งนำมาด้วยความทุกข์ เช่นความเจ็บป่วย โดยเฉพาะความเจ็บป่วยด้วยโรคร้าย เจ็บป่วยที่เรื้อรัง เหน็ดเหนื่อยทั้งคนเจ็บและคนเฝ้าดูแล การเงินในครอบครัวในธุรกิจไม่มีสภาพคล่องเพราะรายได้ไม่พอกับรายจ่าย มีหนี้สินผูกพัน ทั้งในและนอกระบบ ปัญหาครอบครัวแตกแยก และปัญหาติดสิ่งเสพติด พ่อติดเหล้า แม่ติดการพนัน ลูกติดยาและหลานๆติดเกมส์ สาเหตุเหล่านี้ซึ่งนำมาด้วยความทุกข์ ผู้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ถ้าขาดที่ปรึกษา ขาดที่พึ่งทางออกของพวกเราคือ “ฆ่าตัวตาย” ทำลายตัวเองหรือเป็นโรคจิตประสาทได้
1.2. ท่านอิสยาห์ กล่าวว่าพระเจ้าทรงเจิมตั้งข้า ฯเพื่อนำข่าวดีมายังคนที่กำลังมีความทุกข์ เพื่อช่วยปลดปล่อย ช่วยเหลือเพื่อให้เกิดชัยชนะและมีความเจริญรุ่งเรือง ถ้าทุกคนมอบปัญหา ความทุกข์ที่มีให้กับพระเจ้าแล้วเขาจะได้รับการช่วยกู้แน่นอน
1.3. โมเสสนำอิสยาห์ออกจากอียิปต์ เมื่อกองทับอียิปต์ตามมา ประชาชนต่อว่าโมเสส ว่านำเขามาตาย ไม่มีถิ่นทุระกันดาน โมเสสบอกพวกเขาว่า “อย่ากลัวเลย” มั่นคงไว้คอยดูการช่วยกู้ที่มาจากพระเจ้า (อพยพ 14:13-14)
2.มาเพื่อประกาศอิสรภาพแก่เชลย ประกาศการเปิดเรือนจำแก่ผู้ถูกจองจำ
2.1.พระเยซูมาทำพันธกิจบนแผ่นดินโลก คือการปลดปล่อยคนที่ถูกผีสิง คนง่อย คนเจ็บป่วย คนหูหนวดตาบอด ฯลฯ (มัทธิว 8:14 – 17 ) ผู้คนที่มีปัญหาเหล่านี้เขาต้องตกอยู่ในสภาพที่ถูกผูกมัด จำจองมาตลอดชีวิต เมื่อพระเยซูคริสต์ได้เข้าไปเยี่ยม ดูแล รักษา พวกเขาได้รับการช่วยกู้ การปลดปล่อยให้หลุดพ้นจากปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต มีอิสรภาพ มีชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นปกติสุข หลายคนตกเป็นเบี้ยล่างหรือเป็นทาสของผีบรรพบุรุษ ผู้ที่ถูกเลี้ยงมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย ไม่เคยหลุดพ้น แต่พระเจ้าเรามีชัยต่อผีทั้งหลาย หลายคนเป็นทาสการพนัน ผีสิ่งเสพติด พระเจ้าของเราสามารถปลดปล่อยได้เพราะปัญหาชีวิตเหล่านี้ พระเยซูคริสต์ได้รับแบกเอาไปตรึงตายไว้ที่ไม้กางเขนแล้ว (1เปโตร2:24)
3.มาประกาศปีแห่งความโปรดปรานของพระเจ้า
3.1.ความรอดและการช่วยกู้สมัยธรรมบัญญัติต้องปฏิบัติตามพระบัญญัติจึงจะได้รับความรอดโดยเฉพาะพระปัญญัติ 10 ประการ ที่พระเจ้าประทานให้กับท่านโมเสสบนภูเขาซีนาย ทุกวันนี้ศาสนาก็สอนให้มนุษย์ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว มีข้อบัญญัติหรือศีลอยู่มากมายให้มนุษย์กระทำตาม เมื่อเขาตายก็จะได้ไปสวรรค์
3.2 เมื่อพระเยซูเสด็จมาบังเกิดในโลกได้นำเอาความรอดการปลดปล่อยมนุษย์ให้รอดพ้นความบาป ความอธรรมโดยความเชื่อ โดยไม่ต้องประพฤติ ปฏิบัติตามกฎบัญญัติอีกต่อไป เราทั้งหลายรอดโดย พระคุณเพราะความเชื่อไม่ใช่เพราะความประพฤติ เพื่อมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดอวดได้ พระเยซูคือผู้มาโปรดปรานมนุษย์ทุกคน การแก้แค้นจะมาในวันพิพากษา
ความชอบธรรมโดยทางความเชื่อ (โรม 3:21 – 25 )
แต่บัดนี้ได้ปรากฏแล้วว่า ความชอบธรรมซึ่งมาจากพระเจ้านั้นปรากฏนอกเหนือ กฎบัญญัติ ธรรมบัญญัติ กับพวกผู้เผยพระวจนะเป็นพยานอยู่ คือความชอบธรรมของพระเจ้า ซึ่งทรงประทานโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์* แก่ทุกคนที่เชื่อ เพราะว่าคนทั้งหลายไม่ต่างกัน เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า แต่พระเจ้าทรงพระกรุณาให้เขาเป็นผู้ชอบธรรม โดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว พระเจ้าได้ทรงตั้งพระเยซูไว้ให้เป็นที่ลบล้างพระอาชญาโดยพระโลหิตของพระองค์ โดยความเชื่อจึงได้ผล ทั้งนี้เพื่อสำแดงให้เห็นความชอบธรรมของพระเจ้า ในการที่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัย และทรงยกบาปที่ได้ทำไปแล้วนั้น
สรุป :- พระเจ้าคือผู้ อยู่เหนือปัญหา เหนือความทุกข์ เหนือสิ่งที่ผูกมัด จองจำ และเหนือทุกๆสิ่ง พระองค์พร้อมจะช่วยกอบกู้ลูกของพระองค์ทุก ๆคน ตลอดเวลา ถ้าเราเรียกร้องขอการช่วยเหลือจากพระองค์ด้วยความจริงใจและจริงจัง