โดย..ศจ...ธีรพันธ์ ขอบใจ
สรุปคำเทศนา
เรื่อง“พระวิญญาณบริสุทธิ์:ตอน“พระวิญญาณบริสุทธิ์คือใคร?(ยอห์น14:16-18อิสยาห์11:2)
เรื่อง “พระวิญญาณบริสุทธิ์” เพื่อระลึกเหตุการณ์ในวันเพ็นเทคอสต์
และเรียนรู้ถึงชีวิตของบรรดาสาวกรุ่นแรกได้อยู่กับพระเยซูนาน 3 ปี
เดินไปกับพระองค์ ฟังทุกสิ่งที่พระองค์ตรัส กระนั้น
ไม่นานก่อนที่พระเยซูจะถูกตรึงการเขน พระองค์ตรัสกับคนสนิทเหล่านี้ว่า
พระองค์จำต้องจากพวกเขาไป เพื่อพระวิญญาณบริสุทธ์จะได้เสด็จมา
และนี่จะดีกว่าสำหรับพวกเขา
หากสาวกผู้ที่ใช้เวลาทุกวันกับพระเยซูยังจำเป็นต้องมีพระวิญญาณบริสุทธิ์
พวกเรายิ่งจำเป็นให้พระองค์มามีส่วนในชีวิตของเราทุกวันนี้มากเพียงไร พระวิญญาณบริสุทธิ์ ตอน “พระวิญญาณบริสุทธิ์คือใคร?”บุคคลแรก /เพื่อนตลอดชีวิต /จิตวิญญาณของชีวิต /เพื่อนชั่วนิรันดร์
/หนทางเดียวของเรา /พระอาจารย์ผู้หยั่งรู้ /เสียงของพระเจ้า /ความเข็มแข็งของเรา ฯลฯ พระวิญญาณบริสุทธิ์
เป็นผู้ซึ่งเสด็จมาสถิตอยู่กับสาวกผู้ติดตามพระเยซูคริสต์
หลังจากที่พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาจากความตายและเสด็จขึ้นสู่สวรรค์แล้ว
(กิจการบทที่2) พระเยซูได้ตรัสกับเหล่าอัครสาวกว่า... “เราจะทูลขอพระบิดา
และพระองค์จะทรงประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน
เพื่อพระองค์จะได้อยู่กับท่านตลอดไป คือพระวิญญาณแห่งความจริง
ผู้ซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะแลไม่เห็นพระองค์และไม่รู้จักพระองค์
ท่านทั้งหลายรู้จักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับท่านและจะประทับอยู่ในท่าน
เราจะไม่ละทิ้งท่านทั้งหลายไว้ให้เปล่าเปลี่ยว เราจะมาหาท่าน” (ยอห์น14:16-18) "ฤทธานุภาพทั้งสิ้นในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดี
ทรงมอบไว้แก่เราแล้วเหตุฉะนั้น เจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ
ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตร
และพระวิญญาณบริสุทธิ์ สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้
นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค" (มัทธิว 28:18- 20) พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้แล้วตรัสกับเขาว่า
"ฤทธานุภาพทั้งสิ้นในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่เราแล้ว เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ
ให้เป็นสาวกของเรา* ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์
สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไปจนกว่าจะสิ้นยุค
เมื่อเราอ่านพระธรรมกิจเราพบว่าอัครทูตผู้นำและผู้เชื่อพวกเขาได้คาดหวังมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์และพึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์เพียงใด (5:32)เราทั้งหลายจึงเป็นพยานถึงเรื่องเหล่านี้
และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระเจ้าได้ทรงประทานให้ทุกคนที่เชื่อฟังพระองค์นั้น ก็เป็นพยานด้วย" 11:12 พระวิญญาณจึงสั่งให้ข้าพเจ้าไปกับเขาโดยไม่ลังเลใจเลย และพวกพี่น้องทั้งหกคนนี้ได้ไปกับข้าพเจ้าด้วย เราทั้งหลายจึงเข้าไปในตึกของผู้นั้น
13:4 เหตุฉะนั้นท่านทั้งสองที่ได้รับใช้จากพระวิญญาณบริสุทธิ์
จึงลงไปเมืองเซลูเคีย และได้แล่นเรือจากที่นั่นไปยังเกาะไซปรัส15:28 เพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์และข้าพเจ้าทั้งหลายก็เห็นชอบ
ที่จะไม่วางภาระบนท่านทั้งหลาย เว้นไว้แต่สิ่งเหล่านั้นที่จำเป็น16:6-7เมื่อลงไปยังที่ตรงข้ามกับแคว้นมิเซียแล้วก็พยายามจะไปยังแว่นแคว้นบิธีเนีย แต่พระวิญญาณของพระเยซูไม่ทรงโปรดให้ไปแล้วท่านเหล่านั้นได้เดินทางผ่านแคว้นมิเซียมายังเมืองโตรอัส
19:21 ครั้นสิ้นเหตุการณ์เหล่านั้นแล้ว โดยพระวิญญาณเปาโลได้ตั้งใจว่า เมื่อไปทั่วแคว้นมาซิโดเนียกับแคว้นอาคายาแล้วจะเลยไปยังกรุงเยรูซาเล็มและพูดว่า“เมื่อข้าพเจ้าไปที่นั่นแล้วข้าพเจ้าจะต้องไปเห็นกรุงโรมด้วย
”20:28 ท่านทั้งหลายจงระวังตัวให้ดี และจงรักษาฝูงแกะที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงตั้งท่านไว้ให้เป็นผู้ดูแล และเพื่อจะได้ปกครองคริสตจักรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ทรงได้มาด้วยพระโลหิตของพระองค์เอง
19:2 จึงถามเขาว่า “เมื่อท่านทั้งหลายเชื่อนั้น ท่านได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือเปล่า” เขาตอบว่า “เปล่า เรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์นั้นเราก็ยังไม่เคยได้ยินเลย
5:3 ฝ่ายเปโตรจึงถามว่า “อานาเนีย เหตุไฉนซาตาน1 จึงทำให้ใจของเจ้าเต็มไปด้วยการมุสาต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ และทำให้เจ้าเก็บค่าที่ดินส่วนหนึ่งไว้ 5:9 เปโตรจึงถามนางว่า “ไฉนเจ้าทั้งสองได้พร้อมใจกันทดลองพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าเล่า จงดูเถิด เท้าของพวกคนที่ฝังศพสามีของเจ้าก็อยู่ที่ประตู และเขาจะหามศพของเจ้าออกไปด้วย
7:51 “โอ คนชาติหัวแข็งใจดื้อหูตึง ท่านทั้งหลายขัดขวางพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เสมอ บรรพบุรุษของท่านทำอย่างไร ท่านก็ทำอย่างนั้นด้วย / หากปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็ไม่มีชีวิตคริสเตียนที่แท้ หากปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์จะไม่มีความรัก หากปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
จะไม่มีการเปิดเผย หากปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
จะไม่มีความชื่นชมยินดี หากปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะไม่มีสันติสุข หากปราศจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
จะไม่มีเสรีภาพ 2โครินธ์ 3:17 “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ที่ไหน เสรีภาพก็มีอยู่ที่นั่น” (และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ทุกหนทุกแห่ง)ถาม:“พระวิญญาณบริสุทธิ์คือใคร?
1.
เป็นหนึ่งในสามพระภาคของพระเจ้า คือ พระเจ้าพระบิดา
พระเจ้าพระบุตรและพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์
1) พระเจ้ามีพระองค์เดียว: เฉลยธรรมบัญญัติ 6:4; 1 โครินธ์ 8:4; กาลาเทีย 3:20; 1 ทิโมธี 2:5.2)
ตรีเอกานุภาพประกอบด้วยสามพระภาค: ปฐมกาล 1:1; 1:26; 3:22; 11:7; อิสยาห์ 6:8;
48:16; 61:มัทธิว 3:16-17; มัทธิว 28:19; 2 โครินธ์ 13:14พระเจ้าสามพระภาค พบได้ในการทรงสร้าง
ปฐมกาล 1:1 ใช้คำว่า “เอลโลอิม” ซึ่งเป็นสรรพนามพหูพจน์ หนังสือปฐมกาล 1:26; 3:22; 11:7 และอิสยาห์
6:8 ใช้คำว่า “เรา” และคำว่า “เรา” หมายถึงมากกว่าหนึ่ง
อิสยาห์ 48:16 และ 61:1 พระบุตรทรงเป็นผู้ตรัส
และทรงตรัสถึงพระบิดาและพระวิญญาณบริสุทธิ์ จงเปรียบเทียบข้อพระคัมภีร์อิสยาห์ 61:1 กับ ลูกา 4:14-19 แล้วท่านจะเห็นว่าพระบุตรทรงเป็นผู้ตรัส
หนังสือมัทธิว 3:16-17 บรรยายถึงเหตุการณ์ในตอนที่พระเยซูทรงรับบัพติศมา ในภาพนี้ท่านจะเห็นว่า
พระเจ้าพระบิดาประกาศถึงความพอพระทัยในพระบุตร
พระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือพระเจ้าพระบุตร (มัทธิว
28:19 และ 2 โครินธ์ 13:14) ตัวอย่าง : น้ำ มีสามสถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ(ไอน้ำ)
2.
ทรงเป็นบุคคลเรารู้ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นบุคคลจริงๆ
เนื่องจากพระองค์ทรงมีจิตใจ ความรู้สึก และความมุ่งหมาย พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดำริ
และทรงทราบ (1 โครินธ์ 2:10) พระวิญญาณบริสุทธิ์เสียพระทัยได้ ( เอเฟซัส 4:30)
พระวิญญาณทรงสถิตอยู่ในชีวิตผู้เชื่อ (1โครินธ์3:16)
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงมีพระสติปัญญา (1โครินธ์2:11) ทรงมีอารมณ์ความรู้สึก
(โรม15:30) พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงช่วยขอแทนเรา (โรม 8:26-27)
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงตัดสินตามน้ำพระทัยของพระองค์ ( 1 โครินธ์ 12:7-11)
พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพระเจ้า และทรงเป็น “บุคคล” ทรงสามารถเป็นที่พักพิงและที่ปรึกษาที่พระเยซูได้ทรงสัญญากับเราไว้
( ยอห์น 14:16,26; 15:26) “เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงจะเสด็จมาแล้ว
พระองค์จะนำท่านทั้งหลายไปสู่ความจริงทั้งมวล เพราะพระองค์จะไม่ตรัสโดยพลการ
แต่พระองค์จะตรัสสิ่งที่พระองค์ทรงได้ยิน
และพระองค์จะทรงแจ้งให้ท่านทั้งหลายรู้ถึงสิ่งเหล่านั้นที่จะเกิดขึ้น” (ยอห์น16:13)
3.
ผู้ช่วยอีกผู้หนึ่ง คำว่า “ผู้ช่วย” ภาษากรีกใช้คำว่า“พาลาคลีโทส”(ยอห์น14:15-16) มีความหมายเหมือนทนายแก้ต่างให้กับลูกความ
ประกอบด้วย 2 คำได้แก่
“พาลา” = ใกล้ชิดมาก (อธิบายความใกล้ชิดของเปาโลกับทิโมธี) และคำว่า “คาริโอ” = การเรียกมา (อธิบายถึง
การทรงเรียก ที่มีเป้าหมายและถาวร หมายถึง “พระวิญญาณบริสุทธิ์จะอยู่กับเราอย่างถาวร)นี่แน่ะเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไปจนกว่าจะสิ้นยุค”(มัทธิว28:20)สรุป…พระวิญญาณบริสุทธิ์คือใคร?/พระวิญญาณของพระเจ้าอยู่ที่ไหน เสรีภาพก็มีอยู่ที่นั่น ท่านได้รับการ ปลดปล่อยได้รับอิสระ /เสรีภาพแล้ว